8 วิธีดูแลดวงตาให้มีสุขภาพดีอยู่เสมอ
คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ดวงตาเป็นหนึ่งในอวัยวะที่เราใช้งานมากที่สุด และมักเป็นอวัยวะที่หลายคนละเลยในการดูแล
หากดวงตาทำงานผิดปกติหรือใช้การไม่ได้ แน่นอนว่าก็จะส่งผลต่อการใช้ชีวิตไม่มากก็น้อย
จึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราควรหมั่นดูแลดวงตาเป็นประจำ อย่างไรก็ตาม มีหลายวิธีที่สามารถช่วยรักษาดวงตาของคุณให้มีสุขภาพดี
และป้องกันปัญหาหรือโรคต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับดวงตา ลองมาดูกันดีกว่าว่ามีวิธีใดบ้าง
1.หลีกเลี่ยงการขยี้ตา
ในแต่ละวันเราต่างก็ใช้มือเพื่อจับสิ่งต่าง ๆ ซึ่งบรรดาสิ่งสกปรก ฝุ่น
และแบคทีเรียจำนวนมาก ก็จะติดอยู่ที่มือของเราโดยไม่รู้ตัว
การใช้มือจับหรือขยี้ตาจะทำให้สิ่งเหล่านี้เข้าตาได้อย่างง่ายดาย
หากรู้ตัวว่าชอบขยี้ตาจนติดเป็นนิสัย
ก็ให้พยายามหลีกเลี่ยงเพื่อป้องกันการติดเชื้อและการระคายเคือง และล้างมือเป็นประจำเพื่อป้องกันไม่ให้แบคทีเรียเข้าตา
2.ปกป้องดวงตาจากแสงอาทิตย์
หากดวงตาโดนแสงแดงและรังสียูวี ก็จะทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคจุดภาพชัดเสื่อมในผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น
(Age-related Macular Degeneration) และอาจทำให้กระจกตาอักเสบ
ดังนั้นอย่าลืมสวมแว่นกันแดดที่สามารถป้องกันรังสียูวีและสวมหมวกเมื่อต้องออกไปเดินท่ามกลางแสงแดดจัด
3.ดื่มน้ำ
การดื่มน้ำให้เพียงพอเป็นเรื่องที่สำคัญมากค่ะ
เพราะน้ำมีส่วนช่วยในการทำงานของกระบวนการและอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย
ไม่เว้นแม้แต่ดวงตา หากร่างกายได้รับน้ำอย่างเพียงพอ ก็จะช่วยป้องกันไม่ให้ตาแห้งและระคายเคือง
ดังนั้นอย่าปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำเป็นอันขาด
4.ไม่สูบบุหรี่
การสูบบุหรี่มีโทษนับไม่ถ้วน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ การเสี่ยงที่จะเป็นโรคจุดภาพชัดเสื่อมในผู้สูงอายุ...
รวม 8 นิสัยที่ยิ่งทำให้คุณยิ่งเครียด
คงปฏิเสธไม่ได้ว่า เมื่อเราเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ความรับผิดชอบก็จะเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว จึงไม่แปลกที่หลายคนมีอาการเครียดหรือวิตกกังวลกับเรื่องต่าง ๆ โดยเฉพาะเรื่องงาน สถานะทางการเงิน หรือครอบครัว อย่างไรก็ตาม นิสัยบางอย่างก็สามารถทำให้คุณวิตกกังวลได้ไม่แพ้กัน ซึ่งความกลัวหรือความรู้สึกไม่ปลอดภัยอาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ค่ะ เราลองมาเช็คพร้อมกันเลยดีกว่าว่ามีนิสัยอะไรบ้างที่ควรเลิกได้แล้ว
1.ต้องการควบคุมทุกอย่าง
หากคุณเป็นคนที่ชอบบงการ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน ครอบครัว หรือความสัมพันธ์ ก็จะทำให้คุณเป็นคนที่เครียดง่ายและวิตกกังวลเกินเหตุ
การยอมรับว่าไม่มีใครที่สามารถควบคุมได้ทุกสิ่งทุกอย่าง การหัดมอบหมายงาน และการหัดเชื่อใจคนอื่น
ก็อาจช่วยคลายความรู้สึกไม่สบายใจและความวิตกกังวลได้ค่ะ
2.พยายามทำให้ทุกคนพอใจ
การต้องคอยทำให้คนรอบข้างพอใจอยู่เสมออาจทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยในบางครั้ง
โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับคนอื่นจนลืมคิดถึงตัวเอง หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป
สุดท้ายคุณก็จะไม่มีความสุข ดังนั้นอย่าลืมให้ความสำคัญกับความต้องการของตัวเองก่อนที่จะหยิบยื่นความช่วยเหลือให้คนอื่น
3.นอนน้อยเกินไป
การนอนน้อยกว่า
7-8
ชั่วโมงต่อคืน อาจทำให้คุณอารมณ์ไม่ดี อ่อนเพลีย และวิตกกังวลในวันถัดไป
นอกจากการนอนให้เพียงพอแล้ว ก็ควรพยายามจัดตารางนอนให้ได้เวลาเดิม และปิดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก่อนเข้านอนทุกครั้ง
4.ติดคาเฟอีน
แม้ว่ากาแฟมีสารหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย...
ป้องกันขนคุดด้วย 7 วิธีที่คุณอาจยังไม่รู้
ขนคุดเป็นปัญหาผิวที่พบได้ทั่วไปทั้งในผู้ชายและผู้หญิง แต่คนที่ผมหยิกและขนดกจะมีโอกาสเป็นขนคุดมากกว่าคนทั่วไป ทั้งนี้ขนคุดเกิดจากการที่ขนงอกย้อนกลับเข้าไปในผิว
งอกไปทางด้านข้างภายในผิว หรือขดอยู่ใต้ผิว เมื่อเกิดขนคุด
คุณก็จะสังเกตเห็นตุ่มสีแดงนูนโผล่ขึ้นมา ซึ่งบางครั้งสามารถทำให้รู้สึกคันและอาจมีหนองอยู่ภายใน
คุณสามารถพบขนคุดได้ทุกส่วนของร่างกายที่คุณถอน โกน หรือแว็กซ์ขน อย่างไรก็ตาม
มีหลายวิธีที่ช่วยป้องกันการเกิดขนคุดค่ะ ลองมาดูกันดีกว่าว่ามีวิธีใดบ้าง
1.โกนขนให้ถูกทิศทาง
ก่อนที่คุณจะโกนขน
ให้คุณเตรียมผิวให้เปียกด้วยน้ำอุ่น ทาสารหล่อลื่น และใช้มีดโกนที่ใหม่และเป็นแบบเดี่ยวโกนขนไปในทางเดียวกับแนวขน
อย่างไรก็ตาม หากคุณใช้วิธีแว็กซ์ขน ก็ไม่ควรทำมากกว่า 1 ครั้ง
ต่อ 3 สัปดาห์ เนื่องจากการแว็กซ์ขนอาจทำให้ขนขาด การใช้ครีมสลายขนจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
2.ขัดผิวเป็นประจำ
เมื่อเกิดการสะสมของเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว ก็จะทำให้รูขุมขนอุดตัน
ซึ่งจะไปป้องกันไม่ให้ต่อมรากผม (Hair follicle) งอกขึ้นมาจากผิว
ดังนั้นคุณควรขัดผิวเป็นประจำและรักษาผิวให้ชุ่มชื้นเพื่อป้องกันขนคุด
คุณสามารถใช้น้ำมันมะกอกและน้ำตาลเพื่อขัดผิว...
แนะนำ 7 วิธีป้องกันกรดไหลย้อนตอนกลางคืน
ภาวะกรดไหลย้อนสามารถเล่นงานเราได้ทุกเวลา
แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่เผชิญกับปัญหานี้ตอนกลางคืน
ซึ่งจะยิ่งไปซ้ำเติมคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับการนอนให้แย่ลงไปอีก ทั้งนี้ภาวะกรดไหลย้อนเกิดจากการที่กล้ามเนื้อหูรูดของหลอดอาหารผิดปกติ
ทำให้กรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนไปทางหลอดอาหารและช่องปากได้ในที่สุด ซึ่งผู้ป่วยจะรู้สึกแสบร้อนหรือระคายเคือง
และอาการนี้มักเกิดขึ้นร่วมกับอาการเจ็บหน้าอกและกลืนอาหารลำบาก อย่างไรก็ตาม
แม้ว่าภาวะกรดไหลย้อนส่วนใหญ่ไม่ได้มีความรุนแรงและไม่ได้ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนระดับที่น่าเป็นห่วง
แต่เราก็ควรหาวิธีป้องกันไว้ก่อนค่ะ
เพราะภาวะนี้สามารถส่งผลต่อการนอนและคุณภาพชีวิตของคุณได้
สำหรับวิธีป้องกันภาวะกรดไหลย้อนที่เกิดขึ้นเวลากลางคืนมีดังนี้
1.หลีกเลี่ยงการทานอาหารก่อนเข้านอน
การทานอาหารก่อนเข้านอนอาจทำให้คุณรู้สึกอิ่มท้องและพร้อมสำหรับเข้านอน
แต่พฤติกรรมดังกล่าวกลับทำให้เกิดอาการกรดไหลย้อนได้ค่ะ อย่างไรก็ตาม
วิธีแก้ปัญหาคือ ไม่ทานอาหารแบบจัดเต็มเกินไปในช่วง 2-3 ชั่วโมงก่อนเข้านอน
การทำเช่นนี้จะสามารถควบคุมการหลั่งกรดในกระเพาะอาหารก่อนเข้านอนได้
2.จำกัดการทานอาหารที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
อาหารที่ทำให้กรดในร่างกายเพิ่มขึ้นสามารถทำให้อาการกรดไหลย้อนที่เกิดขึ้นตอนกลางคืนแย่ลง
ดังนั้นพยายามจำกัดการทานอาหารที่มีความเป็นกรด โดยเฉพาะตอนทานอาหารค่ำ เช่น
มะเขือเทศ คาเฟอีน อาหารเนื้อตัดเย็น อาหารทอด อาหารเผ็ด และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
3.ยกหัวเตียงให้สูงขึ้น
หนึ่งในวิธีป้องกันการเกิดกรดไหลย้อนตอนกลางคืนที่ดีที่สุดคือ
การยกหัวเตียงให้สูงขึ้นเล็กน้อยค่ะ โดยอาจใช้หมอนมาช่วยหนุน ซึ่งการทำเช่นนี้จะช่วยให้กระเพาะอาหารและลำคออยู่ที่ความสูงเดียวกัน
จึงช่วยควบคุมกรดในกระเพาะอาหารไม่ให้ไหลย้อนขึ้นมาทางลำคอได้นั่นเอง
4.ลดน้ำหนัก
คนที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐานและเป็นโรคอ้วนจำเป็นต้องลดน้ำหนักเพื่อควบคุมอาการกรดไหลย้อน
เพราะว่าการมีไขมันสะสมบริเวณรอบเอวจะทำให้การบีบอัดบริเวณกระเพาะอาหารเพิ่มขึ้น และกรดในกระเพาะอาหารจะไหลย้อนกลับไปทางหลอดอาหาร
เมื่อน้ำหนักตัวอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม นอกจากปัญหากรดไหลย้อนจะบรรเทาลงแล้ว
สุขภาพโดยรวมก็จะดีขึ้นอีกด้วย
5.หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์
บุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถือเป็นหนึ่งในตัวการที่ทำให้อาการกรดไหลย้อนแย่ลง
ทั้งนี้การสูบบุหรี่ไม่เพียงแต่ทำให้คุณมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งหลอดอาหารเพิ่มขึ้นเท่านั้น
แต่ยังกระตุ้นให้กระเพาะอาหารหลั่งกรดออกมามากขึ้น
และทำให้กล้ามเนื้อหูรูดส่วนล่างของหลอดอาหารทำงานได้แย่ลง ในขณะที่การดื่มเหล้าหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดอื่น
ๆ สามารถกระตุ้นให้เกิดอาการของภาวะกรดไหลย้อน หากคุณเป็นทั้งสิงห์อมควันและนักดื่มตัวยง
ความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะกรดไหลย้อนก็จะยิ่งเพิ่มขึ้น
6.สวมเสื้อผ้าที่หลวม
การใส่ชุดนอนที่หลวมไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณพลิกตัวหรือนอนหลับได้สบายมากขึ้นเท่านั้น
แต่ยังมีผลต่ออาการของภาวะกรดไหลย้อนอีกด้วย ทั้งนี้การใส่ชุดนอนที่รัดแน่นจนเกินไปสามารถทำให้เกิดแรงกดภายในท้อง
ส่งผลให้กรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับมายังหลอดอาหารได้ในที่สุด ดังนั้นการใส่ชุดนอนที่หลวม
และทำให้รู้สึกสบายตอนสวมใส่จึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
7.ควบคุมความเครียด
การจัดการกับความเครียดได้อย่างเหมาะสมไม่เพียงแต่ลดความเสี่ยงที่จะเกิดอาการกรดไหลย้อนตอนกลางคืนเท่านั้น...
รู้ไว้จะได้รับมือถูก….7 สาเหตุที่ทำให้ผมร่วง
เส้นผมเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายที่มีผลต่อบุคลิกภายนอกของเรา
ซึ่งหนึ่งในปัญหาเกี่ยวกับเส้นผมที่ทำให้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายกลุ้มใจไม่น้อยก็คือ
ปัญหาผมร่วงนั่นเอง การเห็นเส้นผมที่เราตั้งใจหวีและบำรุงเช้าเย็นหลุดร่วงไปทีละน้อย
ก็สามารถทำให้เรารู้สึกจิตตก และกังวลไปต่าง ๆ นานา อย่างไรก็ตาม
การรู้สาเหตุของปัญหาสามารถช่วยให้คุณรับมือกับปัญหาผมร่วงได้อย่างเหมาะสมค่ะ
แต่จะเกิดจากสาเหตุใดบ้างนั้น เราลองมาดูพร้อมกันเลยดีกว่า
1.ทานอาหารที่มีโปรตีนไม่เพียงพอ
การทานอาหารประเภทโปรตีนไม่เพียงพอเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ผมหยุดเจริญเติบโต
ผมร่วง และแม้แต่ทำให้เส้นผมเปลี่ยนสี อย่างไรก็ตาม
ผู้หญิงควรทานโปรตีนให้ได้อย่างน้อยวันละ 48 กรัม
ซึ่งคุณสามารถพบโปรตีนได้ในอาหารหลายชนิดนอกเหนือจากเนื้อสัตว์ ตัวอย่างเช่น ไข่
อัลมอนด์ นม กรีกโยเกิร์ต ควินัว เป็นต้น
2.ทานอาหารที่มีธาตุเหล็กไม่เพียงพอ
คนที่ทานมังสวิรัติหรือคนที่พยายามจำกัดการทานเนื้อสัตว์อาจประสบปัญหาขาดธาตุเหล็ก
ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดปัญหาผมร่วงได้ค่ะ ผู้หญิงที่มีอายุอยู่ในช่วง 19-50 ปี และ 51 ปีขึ้นไป ควรทานธาตุเหล็กให้ได้...
7 วิธีเปลี่ยนไลฟ์สไตล์เพื่อสู้ภาวะความดันโลหิตสูง
ภาวะความดันโลหิตสูง หรือที่เรียกว่า Hypertension ถือเป็นอีกภาวะหนึ่งที่ผู้ป่วยจะไม่แสดงอาการใด ๆ ออกมาตอนเริ่มแรก แต่เมื่อเวลาผ่านไป ก็สามารถทำให้เกิดโรคหัวใจ และโรคอื่น ๆ ตามมา จึงทำให้ภาวะนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็น “The Silent Killer” นั่นเอง อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเราสามารถรักษาภาวะความดันโลหิตสูงได้ด้วยการทานยา แต่การหมั่นไปตรวจร่างกาย และการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ก็ยังคงเป็นเรื่องที่จำเป็น หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่กำลังเผชิญกับภาวะนี้ หรืออยากป้องกันตัวเอง เราลองมาดูวิธีควบคุมความดันโลหิตพร้อมกันเลยดีกว่า
1.ออกกำลังกาย
หากคุณมีภาวะความดันโลหิตสูง การออกกำลังกายสามารถช่วยคุณได้ในระดับหนึ่งค่ะ...
ไอโอดีน คืออะไร ร่างการขาดได้หรือไม่
ภาวะขาดไอโอดีนทำให้ผมร่วงจริงหรือ?
ไอโอดีนมีผลต่อเส้นผมจริงๆ หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่มักเห็นกองเส้นผมของตัวเองในห้องน้ำ เห็นผมติดอยู่ที่หวีมากกว่าปกติ ผมบางลงจนน่าตกใจ หรือแม้แต่เห็นหัวล้านเป็นหย่อม ๆ หนึ่งในสาเหตุที่เป็นไปได้ก็คือ ภาวะขาดไอโอดีนนั่นเองค่ะ วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับภาวะนี้ให้มากขึ้นพร้อมกับแนะนำอาหารเสริมไอโอดีน แต่ก่อนที่จะไปถึงขั้นนั้น เราลองมาทำความรู้จักกับธาตุไอโอดีนกันก่อนดีกว่า
ไอโอดีนคืออะไร?
ไอโอดีนเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย และสามารถพบได้ในเกลือ
ประเด็นสำคัญ คือ ร่างกายของเราจะไม่สามารถผลิตไอโอดีนได้เอง ทั้งนี้ไอโอดีนเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการผลิตไทรอยด์ฮอร์โมน
ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมน้ำหนัก รักษาความอบอุ่นของร่างกาย และทำหน้าที่อื่น ๆ
หนึ่งในนั้นก็คือ การรักษาเส้นผมของคุณให้มีสุขภาพดี
ไทรอยด์ฮอร์โมนมีส่วนช่วยสร้างต่อมผม (Hair follicles) หากร่างกายไม่ได้รับไอโอดีนอย่างเพียงพอ ก็จะทำให้มีไทรอยด์ฮอร์โมนน้อยกว่าปกติ...
เรื่องกลิ่นไม่ใช่เรื่องล้อเล่น….7 วิธีป้องกันไม่ให้เกิดกลิ่นตัว
ปัญหากลิ่นตัวนับว่าเป็นปัญหาที่พบได้ทั่วไปทั้งในผู้ชายและผู้หญิง นอกจากจะไม่ดีต่อภาพลักษณ์แล้ว
ก็ยังส่งผลกระทบต่อคนอื่นอีกด้วย ซึ่งคงเป็นเรื่องที่น่าอายไม่น้อยหากกลิ่นตัวของคุณโชยไปเตะจมูกของคนรอบข้าง
นอกจากนี้การมีกลิ่นตัวยังส่งผลต่อบุคลิกภาพ ความพึงพอใจในตัวเอง และความมั่นใจ
อย่างไรก็ตาม โชคดีที่มีหลายวิธีที่สามารถป้องกันการเกิดกลิ่นตัวได้ค่ะ เริ่มสงสัยแล้วใช่ไหมว่ามีวิธีใดบ้าง
ลองมาดูพร้อมกันเลยดีกว่า
1.อาบน้ำ
ผิวของเราสะสมแบคทีเรียและสิ่งสกปรกในระหว่างวัน ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดกลิ่นเหม็น
การอาบน้ำทุกวันจะช่วยกำจัดเหงื่อ สิ่งสกปรก และแบคทีเรียบนผิวได้ค่ะ อย่างไรก็ตาม
โดยธรรมชาติแล้วเหงื่อของเราไม่มีกลิ่นเหม็น
แต่เมื่อแบคทีเรียที่อยู่บนผิวผสมกับเหงื่อ มันก็จะแบ่งตัวอย่างรวดเร็ว
และทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ในที่สุด วิธีแก้ปัญหาคือ ให้คุณทำความสะอาดผิวบริเวณที่มีเหงื่อออกมากเป็นพิเศษให้ทั่ว
และเช็ดผิวให้แห้งเพื่อป้องกันไม่ให้ผิวชื้น
2.โกนขนรักแร้
การโกนขนใต้วงแขนไม่ได้ทำให้เหงื่อออกน้อยลง แต่อาจช่วยป้องกันไม่ให้เกิดกลิ่นเหม็นใต้วงแขน
ด้วยความที่เส้นขนมีรูพรุน ทำให้มันดูดซับกลิ่นที่เกิดจากเหงื่อ
นอกจากนี้การมีเส้นขนมากเกินไปจะทำให้ใต้วงแขนอับชื้น ซึ่งอาจทำให้แบคทีเรียเจริญเติบโตได้ดี
และอาจทำให้เกิดกลิ่นเหม็นได้ในที่สุด อีกทั้งยังทำให้เหงื่อระเหยได้ช้าลง หากใต้วงแขนเรียบเนียนไร้ขน
ก็จะทำให้คุณรู้สึกสดชื่นและมีแบคทีเรียลดลง ซึ่งจะทำให้กลิ่นตัวลดลงตามไปด้วย
ในกรณีที่คุณเพิ่งออกกำลังกายเสร็จ ก็ควรล้างรักแร้และร่างกายส่วนอื่น ๆ
ให้สะอาดหมดจด และเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ เพื่อไม่ให้แบคทีเรียเกิดการหมักหมม
3.ใช้ผลิตภัณฑ์ช่วยระงับเหงื่อและระงับกลิ่นกาย
ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยระงับเหงื่อมีสรรพคุณช่วยไม่ให้เหงื่อออก...
10 วิธีรักษาสุขภาพปากและฟัน….ที่คุณสามารถทำได้แบบไม่ยาก
สุขภาพปากและฟันที่ดีจะทำให้ทุกครั้งที่ยิ้มเห็นฟันเรียงสวยขาวสะอาด
เหงือกสีชมพูอ่อนน่ามองที่สุด ไม่ว่าคุณจะพูดเอ่ยอะไรก็มีความสดใส ไม่มีกลิ่นปาก
ใคร ๆ ที่อยู่ใกล้คุณก็จะหลงเสน่ห์นี้แน่นอน
แต่ถ้าตรงกันข้ามหากสุขภาพปากและฟันของคุณย่ำแย่ พูดแต่ละครั้งปากเหม็น
เห็นฟันสีขาวอมเหลืองแบบนี้ก็คงอยากจะเบือนหน้าหนี จะดีกว่าไหมหากคุณจะดูแลช่องปากของคุณตั้งแต่วันนี้เพื่อไม่ให้สายเกินแก้
วิธีดูแลสุขภาพปากและฟัน
1. ควรแปรงฟันเป็นประจำอย่างน้อยเช้าและเย็นด้วยแปรงสีฟันให้เข้าถึงฟันทุกซี่ทั้งล่างและบนอย่างน้อยครั้งละ
2 นาที อย่าลืมแปรงลิ้นด้วยเพื่อจะได้ยับยั้งการเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่มาจากคราบของจุลินทรีย์จนเป็นสาเหตุของโรคฟันผุและโรคเหงือกอักเสบ
2. ควรใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไลน์ที่สามารถช่วยขจัดคราบพลัคและป้องกันฟันผุ
จะให้ดีควรช่วยป้องกันเรื่องของการเกิดเลือดออกขณะแปรงฟันด้วย
3. ควรเลือกแปรงสีฟันที่อ่อนนุ่มไม่แข็งจนเกินไปเพราะจะทำให้เหงือกร่นได้
4. ควรใช้ไหมขัดฟันร่วมด้วยเพื่อทำให้มั่นใจในความสะอาดมากขึ้นและไหมขัดฟันนี้จะช่วยขจัดเศษอาหารที่ติดอยู่ตามซอกของฟันได้ดียิ่งขึ้น
5. ควรไปพบทันตแพทย์เพื่อขูดหินปูนและขัดฟันทุก 6 เดือน เนื่องจากการแปรงฟันอาจสามารถขจัดได้เพียงบางส่วนแต่คราบที่ฝังแน่นมันจะกลายเป็นหินปูนแข็ง
จึงต้องให้คุณหมอช่วยขูดเอาหินปูนออกจะให้ดีให้คุณหมอขัดฟันด้วย
6. สำหรับใครที่ใส่เหล็กดัดฟันหรือใส่ฟันปลอมควรตรวจสอบความสะอาดของฟันเป็นประจำ
เพราะตามซอกเล็ก ๆ อาจจะมีเศษอาหารหลงเหลืออยู่ได้
7. ควรกินอาหารเนื้อหยาบอย่าง ฝรั่ง มันแกว ก้านผัก บ้าง เพื่อที่จะช่วยทำความสะอาดฟันอีกทางหนึ่ง
8. ในการเคี้ยวอาหารควรใช้ฟันทุกซี่เคี้ยวอาหาร ไม่ควรเคี้ยวข้างเดียวเพื่อจะได้บริหารเหงือกและฟันให้แข็งแรง
9....
6 ทริคช่วยลดคาร์บแบบไม่เสียสุขภาพ
คาร์โบไฮเดรต หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า “คาร์บ” เป็นสารอาหารหลักที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย เราสามารถพบสารอาหารชนิดนี้ได้ในอาหารหลายชนิด เช่น ข้าว ขนมปัง ผลไม้บางชนิด นม ฯลฯ อย่างไรก็ตาม หนึ่งในกุญแจสำคัญที่ช่วยให้คุณลดความอ้วนได้สำเร็จก็คือ การทานอาหารประเภทคาร์บให้น้อยลง ซึ่งอาจเป็นเรื่องที่ค่อนข้างท้าทาย เพราะอาหารส่วนใหญ่ที่เราทานทุกวันนั้นมีคาร์โบไฮเดรตเป็นส่วนประกอบ วันนี้เราจึงได้รวบรวมทริคง่าย ๆ ที่ช่วยให้คุณทานคาร์บได้น้อยลงโดยไม่เสียสุขภาพมาให้อ่านเป็นแนวทาง มาดูกันเลยดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง
1.ทานแป้งที่มีคาร์บต่ำแทนแป้งสาลี
แป้งสาลีที่ใช้ทำขนมมักมีคาร์โบไฮเดรตสูง
แต่ทราบหรือไม่ว่ายังมีแป้งชนิดอื่น ๆ ที่มีคาร์บต่ำด้วยค่ะ...